kachelotravel Culture วัฒนธรรมการดื่มชา กับชาวอังกฤษ

วัฒนธรรมการดื่มชา กับชาวอังกฤษ

วัฒนธรรมการดื่มชา

ถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษ ประเทศที่ดูผู้ดี๊ผู้ดีก็จะต้องนึกถึงการดื่มชาอย่างแน่นอน ที่จริงแล้วชาเนี่ยเป็นเครื่องดื่มที่มีคนดื่มมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากน้ำเปล่าเลยนะ เพราะนอกเหนือจากประเทศอังกฤษแล้วยังมีประเทศอื่นๆที่นิยมดื่มชากันอีก เช่น ประเทศจีน หรือญี่ปุ่นที่มีพิธีชงชาที่งดงาม หรืออย่างคนไทยเองก็นิยมดื่มเหมือนกัน ไม่ว่าจะชาเขียว ชาไทย หรือแม้แต่ชานมไข่มุกก็ตาม แต่วันนี้เราจะมาดู วัฒนธรรมการดื่มชา ของชาวอังกฤษกันว่าเป็นยังไง

ความเป็นมาของ วัฒนธรรมการดื่มชา ของชาวอังกฤษ

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1600 ชาวอังกฤษได้รู้จักกับชาครั้งแรกจากการที่พระเจ้าชาร์ลที่ 2 แต่งงานกับเจ้าหญิงชาวโปรตุเกสนามว่าแคทเธอรีนแห่งบราแกนซา ผู้ที่ชื่นชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ก็เลยทำให้ชาเป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันในราชวงศ์และชนชั้นสูง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายไปทุกชนชั้น และนี่ก็เป็นที่มาถึงวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวอังกฤษนั่นเอง และก่อนจะไปจิบชาสวยๆแบบอังกฤษเราลองมาทำความรู้จักกับสถานที่สำหรับดื่มชาและการดื่มชาแบบต่างๆกันก่อนดีกว่า

  • British-style tea จริงๆแล้วชาวอังกฤษเนี่ยเขาชื่นชอบชาดำ หรือ Black tea กันมากเลยนะ ไม่ว่าจะมาจากอินเดีย ศรีลังกา จีน หรือแอฟริกา และการนำใบชาจากหลายประเทศมาผสมกันก็เป็นที่นิยมมากเหมือนกันนะ แต่ด้วยโลกที่เปลี่ยนไป อะไรๆก็ต้องทำให้เร็วขึ้น จากการต้มใบชาก็กลายเป็นการใช้ถุงชา ยี่ห้อที่นิยมกันก็มี Twinings, Tetley หรือ Lipton ที่ส่งออกไปทั่วโลก แต่ไม่ว่าจะชาในรูปแบบไหนชาวอังกฤษเขาก็ไม่ค่อย mind กันแล้วล่ะเดี๋ยวนี้ ส่วนของการชงชานั้นชาวอังกฤษเขาจะใส่ใบชาหรือถุงชาลงในกาก่อนแล้วตามด้วยน้ำเดือดๆเลยนะ อย่ารอให้น้ำเย็นแม้แต่นิดเดียวล่ะ เขาว่ารสชาติชามันไม่ได้ แล้วคนอังกฤษเขาชอบดื่มชาใส่นมกัน หรือจะเพิ่มน้ำตาลไปอีกก็ได้ อัตราส่วนที่ดีเขาบอกว่า ชา80:นม20 แหละเธอ ส่วนใส่นมก่อนหรือหลังชาเนี่ยก็แล้วแต่คนนะ ถ้าอยากหาเรื่องถกกันระหว่างดื่มชา เธอก็ลองถามคนอังกฤษนะว่าใส่นมก่อนหรือหลังชา รับรองเถียงกันยาวเลยแหละ
วัฒนธรรมการดื่มชา
  • Formal tea สำหรับการดื่มชาแบบเป็นทางการเราก็จะต้องเซ็ตชาที่เข้าคู่กันทั้งหมดนะ จะเป็นแบบกระเบื้องเคลือบ หรือเครื่องเงินก็ได้ แต่ต้องกาน้ำชา แก้วชา จานรองแก้ว กาใส่นม และถ้วยน้ำตาล ดูดีใช่ไหมล่ะ
วัฒนธรรมการดื่มชา
  • Cream tea สำหรับครีมทีเขาจะหมายถึงการเสิร์ฟชาพร้อมกับสโคน มีถ้วยครีมและแยม ซึ่งสโคนเป็นขนมยอดนิยมที่เอาไว้กินกับชา วิธีกินก็คือตักครีมโปะลงบนตัวสโคนแล้วตามด้วยแยม แล้วยิ่งได้สโคนร้อนๆก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
cream tea
  • Elevenses เป็นชื่อเรียกการดื่มชาในช่วง 11 โมง โดยจะเสิร์ฟชาพร้อมกับ finger food เช่น บิสกิต หรือเค้กชิ้นเล็กๆ
วัฒนธรรมการดื่มชา
  • Afternoon tea เป็นช่วงเวลาการดื่มชาที่เราคุ้นเคยกันดี อย่างที่เห็นได้จากหนังต่างๆที่สาวๆผู้ดีอังกฤษจะนัดกันมาดื่มชายามบ่ายที่บ้านใครสักคนในกลุ่มแล้วเม้าท์มอยกัน สำหรับอาหารที่เสิร์ฟคู่กับน้ำชายามบ่ายมักจะเป็นแซนด์วิชชิ้นเล็กๆ หรือของหวานก็ได้
afternoon tea
  • Tea gardens ในช่วงกลางปี 1700 Tea gardens เป็นสถานที่ที่นิยมมาก เขาจะเสิร์ฟน้ำชายามบ่ายและช่วงเย็น และยังเป็นที่ที่ให้ความบันเทิงด้วยการจัดปาร์ตี้น้ำชา และมีฟลอร์ให้เต้นกันอย่างเต็มที่ด้วย
tea gardens
  • Tea rooms and tea shops แต่เดิม tea rooms เป็นสถานที่นัดพบสำหรับสาวๆในการออกมาดื่มน้ำชายามยามบ่ายพร้อมกับเม้าท์มอยกันนอกบ้าน แต่เดี๋ยวนี้หลายๆที่กลายเป็นร้านกาแฟเก๋ๆไปแล้ว แต่ก็ยังมีให้อยู่บ้างในอังกฤษนะ ถ้าใครได้เที่ยวก็ลองหาดูแล้วแวะไปจิบชาสวยๆก็ได้
วัฒนธรรมการดื่มชา

เป็นยังไงกันบ้างกับที่มาที่ไปของ วัฒนธรรมการดื่มชา แบบอังกฤษ พอรู้ลึกมากขึ้นแบบนี้อาจจะทำให้เวลาจิบชาดูสวยขึ้นมาได้เลยล่ะเธอ ยังไงก็ลองเปลี่ยนจากกินชาไข่มุกทุกบ่ายมาเป็นดื่มชาแบบอังกฤษบ้างก็จะช่วยให้สุขภาพไม่แย่ลงนะ

ติดตามเรื่องเกี่ยวกับประเทศเยอรมนีได้ที่ Germany

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

neoclassicism

ความขัดแย้งของ Neoclassicism จินตนิยมและสัจนิยมความขัดแย้งของ Neoclassicism จินตนิยมและสัจนิยม

Neoclassicism เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 18 ในขณะที่การเคลื่อนไหวต่อต้านโรโกโก ต้องการที่จะกลับไปสู่ความเรียบง่ายความเป็นระเบียบและ ‘ความบริสุทธิ์’ ของศิลปะคลาสสิกโดยเฉพาะกรีกและโรมโบราณ นีโอคลาสสิกเป็นองค์ประกอบทางศิลปะของการเคลื่อนไหวทางปัญญาที่เรียกว่าการตรัสรู้ นีโอคลาสสิกแพร่หลายในยุโรปตลอดศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร แต่อันที่จริงนีโอคลาสสิกก็สามารถมองได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นเดียวกับศิลปะและวัฒนธรรม ศิลปะนีโอคลาสสิกที่ให้ความสำคัญกับระเบียบสมมาตรและความเรียบง่ายแบบคลาสสิก รูปแบบทั่วไปในศิลปะนีโอคลาสสิก ได้แก่ ความกล้าหาญและสงครามเหมือนกับที่เราจะเห็นได้ทั่วไปในศิลปะกรีกและโรมันโบราณ Ingres, Canova และ Jacques-Louis David เป็นหนึ่งในนักนีโอคลาสสิกที่มีชื่อเสียงที่สุด จินตนิยมปฏิเสธสุนทรียศาสตร์ของ Neoclassicism เช่นเดียวกับ Mannerism ปฏิเสธ Classicism จินตนิยมปฏิเสธสุนทรียศาสตร์ของ Neoclassicists

ศุกร์ 13

ศุกร์ 13 กับความเชื่อเรื่องตัวเลขศุกร์ 13 กับความเชื่อเรื่องตัวเลข

คนไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลางฉันท์ใด ฝรั่งก็ต้องมีความเชื่อเป็นของตัวเองเหมือนกัน และเรื่องของวันแห่งความโชคร้ายอย่าง ศุกร์ 13 ก็ดูเหมือนว่าฝรั่งในโซนยุโรปอเมริกานั้นก็จะเชื่อถือกันอย่างจริงจังซะด้วยสิ สังเกตได้ไม่ยาก ถ้าหากว่าเราไปเที่ยวในโซนยุโรป จำพวกโรงแรมหรือว่าที่พักยังไม่มีชั้น 13 หรือห้องเลขที่ 13 เลย นั้นเพราะว่าความเชื่อว่าเลข 13 นั้นเป็นเลขของความโชคร้ายนั้นเอง ศุกร์ 13 – ที่มาของเลข 13 และความเชื่อเรื่องวันศุกร์ของชาวคริสเตียน และความโชคร้ายนั้นเหมือนจะยิ่งทวีคูณความรุนแรงเข้าไปอีก  เมื่อมันตรงกับวันศุกร์ที่ 13 อย่างพอดิบพอดี  ซึ่งนานๆจะมีวันศุกร์ที่ตรงกับวันที่ 13 พอดีสักทีหนึ่ง   

มอลต้า

Malta มอลต้า สวรรค์เล็กๆในยุโรปMalta มอลต้า สวรรค์เล็กๆในยุโรป

ถ้าพูดถึงฝั่งยุโรปแล้ว นอกจากประเทศใหญ่ๆอย่างฝรั่งเศส อิตาลี สเปน หรือเยอรมนีที่คนชอบไปเที่ยวแล้ว ประเทศเล็กๆที่เป็นเกาะอย่าง มอลต้า ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นประเทศที่มีความสวยงามทั้งทางด้านวิวทิวทัศน์ และด้านศิลปะต่างๆ แถมยังได้ชื่อว่าเป็นอีกประเทศที่มีอากาศดีที่สุดในโลกด้วย วันนี้เราก็เลยจะพาไปรู้จักกับประเทศเล็กๆที่มีความน่าสนใจนี้กัน รู้จักกับ มอลต้า สาธารณรัฐมอลต้า ตั้งอยู่บนตอนกลางของทะเลเมดิเตอเรเนียน ในทวีปยุโรป สำหรับความเป็นมาของประเทศนี้มีมานานมากแล้ว เพราะตัวประเทศถูกเปลี่ยนผ่านการปกครองมาหลากหลายรูปแบบทั้งกรีก โรมัน อาหรับ ชาวซิซิลี เรื่อยมาจนถึงฝรั่งเศสและอังกฤษ ที่เป็นประเทศสุดท้ายก่อนที่จะเป็นเอกราชในปี 1964 และประกาศว่าเป็นสาธารณรัฐในปี 1974 หลังจากนั้นก็ได้เป็นส่วนหนึ่งใน EU เมื่อปี