kachelotravel Culture ด้านแย่ ๆ เกี่ยวกับ การใช้ชีวิตในนอร์เวย์

ด้านแย่ ๆ เกี่ยวกับ การใช้ชีวิตในนอร์เวย์

การใช้ชีวิตในนอร์เวย์

การใช้ชีวิตในนอร์เวย์ – นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่อันดับต้น ๆ ของโลก แต่รู้หรือไม่ว่าข้อเสียของการไปอยู่นอร์เวย์สำหรับชาวต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่มักพูดไปในทางเดียวกัน แล้วเค้าพูดว่าไงกันบ้าง วันนี้ลองมาฟังกัน

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

การใช้ชีวิตในนอร์เวย์
การใช้ชีวิตในนอร์เวย์

อุปสรรคที่ขึ้นชื่อกับ การใช้ชีวิตในนอร์เวย์ สำหรับชาวต่างชาติ

เรื่องแรกที่เป็นอุปสรรคที่ขึ้นชื่อสำหรับชาวต่างชาติ และรวมถึงชาวนอร์เวย์บางคนเองด้วยก็ตามคือ การหางาน บางคนใช้เวลามากกว่า 3 เดือน ที่แสนจะวุ่นวาย และในการร่อนใบสมัครกว่าหนึ่งร้อยใบสมัคร เพื่อที่จะให้ได้สัมภาษณ์ และเว็บไซต์ Finn.no ก็ไม่ใช่เว็บไซต์ที่ดีที่สุด การหางานทำในประเทศนอร์เวย์อาจเป็นเรื่องที่ยากมาก

เนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มีการศึกษาสูง และมีทักษะสูงรวมถึงได้ภาษาท้องถิ่นอยู่ก่อนแล้ว ชาวต่างชาติที่ทักษะไม่ถึงจริง ๆ อีกทั้งพูดได้แค่ภาษาอังกฤษ จึงไม่เป็นที่ต้องการ นอกจากนี้ บริษัทในนอร์เวย์มักจะนิยมทำสัญญาจ้างแบบ ” จ้างตลอดชีวิต ” เนื่องจากแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโดนไล่ออกจากงาน ยกเว้นมีการทำผิดร้ายแรง

อีกทั้งการที่จะจ้างชาวต่างชาติ บริษัทต่าง ๆ จะต้องมั่นใจว่าคุณจะทำงานที่นี่ยาว ๆ เพราะการจ้างและฝึกอบรมพนักงานใหม่แต่ละคนนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง จึงต้องทำให้แน่ใจว่าบริษัทจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด เมื่อจ่ายเงินให้คุณไปแล้ว

ซึ่งปัญหาการหางานทำสำหรับคนต่างชาติที่ย้ายไปอยู่นอร์เวย์นั้นเป็นปัญหาโลกแตกอย่างมาก เพราะการศึกษาบ้านเค้าดีจริง ๆ ดีติดอันดับต้น ๆ ของโลก เค้าจะอยากมาจ้างคนที่มีการศึกษารั้งท้ายทำไม ดังนั้นจึงต้องพยายามกันมากหน่อยสำหรับชาวต่างชาติ ทั้งเรื่องของสกิลการทำงานและภาษา
รัสเซียกำลังเผชิญหน้ากับ สงครามเย็น A Very Cold War

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

credit : ufabet1688

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

Related Post

baroque

ความแตกต่างระหว่าง Baroque และ Rococoความแตกต่างระหว่าง Baroque และ Rococo

Renaissance Classicism ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันสองแบบ คือ Mannerism และ Baroque Mannerism ซึ่งเป็นปฏิกิริยาต่อต้านความสมบูรณ์แบบในอุดมคติของ Classicism ใช้การบิดเบือนแสงและกรอบเชิงพื้นที่เพื่อเน้นเนื้อหาทางอารมณ์ของภาพวาดและอารมณ์ของจิตรกร ในขณะที่ศิลปะเรอเนสซองซ์ชั้นสูงเน้นสัดส่วนความสมดุลและความงามในอุดมคติ Mannerism มีคุณสมบัติดังกล่าวเกินจริงซึ่งมักส่งผลให้องค์ประกอบที่ไม่สมดุลหรือสง่างามผิดธรรมชาติ สไตล์นี้มีความโดดเด่นในด้านความซับซ้อนทางปัญญาและคุณสมบัติที่ประดิษฐ์ขึ้น (เมื่อเทียบกับธรรมชาติ) ในทางตรงกันข้ามศิลปะบาโรกได้นำเอาการเป็นตัวแทนของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาไปสู่ยุคใหม่โดยเน้นรายละเอียดการเคลื่อนไหวการจัดแสงและการแสดงละคร จิตรกรยุคบาโรกที่รู้จักกันดี ได้แก่ Caravaggio, Rembrandt, Peter Paul Rubens และ Diego Velázquez ศิลปะบาโรกมักถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านการปฏิรูป การฟื้นฟูชีวิตทางจิตวิญญาณในคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิก ใขณะเดียวกันธีมทางศาสนาและการเมืองก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

เมืองหลวงบัลแกเรียสุดอู้ฟู่

เมืองหลวงบัลแกเรีย สุดอู้ฟู่เมืองหลวงบัลแกเรีย สุดอู้ฟู่

ถ้าให้คุณลองจิตนาการ เมืองหลวงบัลแกเรีย คุณจะคิดว่าเป็นแบบไหน บ้านป่าเมืองเถื่อนหรอ หรือว่าเมืองที่ดูซอมซ่อ มีผลงานสีสเปรย์พ่นตามกำพงเต็มไปหมดแบบที่เราชอบเห็นในข่าว หรือเมืองที่มีแต่ความอันตราย แต่พอไปเจอจริง ๆ แล้ว คุณจะสลัดทุกสิ่งที่คุณคิดทิ้งแทบไม่ทันเลยรู้ไหม ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

วัฒนธรรมการทำงาน

วัฒนธรรมการทำงาน เพื่อใช้ชีวิตของชาวฝรั่งเศสวัฒนธรรมการทำงาน เพื่อใช้ชีวิตของชาวฝรั่งเศส

ล่าสุดนี้ผู้เขียนเองได้มีโอกาสชมซีรีย์เรื่อง Emily in Paris ทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้ วัฒนธรรมการทำงาน ของชาวฝรั่งเศสโดยเฉพาะชาวเมืองปารีส ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าผู้เขียนนั้นตกหลุมรักเป็นอย่างมาก แต่จะมีเรื่องไหนบ้างที่ตรงใจกับคุณก็ลองมาดูกัน ถ้าพูดถึงประเทศฝรั่งเศสคนอาจจะนึกถึงความโรแมนติกเมืองที่สวยงามปารีสที่ใครๆก็ใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเยือนให้ได้ในสักครั้งหนึ่งของชีวิตคุณพูดมาอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของชาวปารีสก็คือเขาไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่เพื่อการทำงานกันเขาใช้ชีวิตแบบ Artist สามารถที่จะเพลิดเพลินกับทุกอย่างรอบตัวได้เรียกว่าใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ก็อาจจะไม่แตกต่างไปนักแต่ก็ไม่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปาก ศิลปะยุคกลาง และศิลปะแบบไบแซนไทน์ ชาวฝรั่งเศสหรือชาวปารีสจะมีวัฒนธรรมการเข้างานที่ออกจากสายไปสักหน่อยถ้าเปรียบเทียบกับชาวไทยอย่างเราโดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆในประเทศไทยอาจจะเริ่มทำงานกันที่เราราว 8:00 น ยังสายที่สุดเลยก็น่าจะเป็น 9:00 น แต่สำหรับชาวปารีสนั้นเขาไม่จำเป็นจะต้องรีบตื่นเช้ามาทำงานเพราะ บรรดาห้างร้านหรือบริษัทต่างๆอาจจะเริ่มเปิดทำงานกันที่ 10 โมงครึ่งเลยทีเดียวซึ่งจะทำให้เขาสามารถมีเวลาใช้ชีวิตในช่วงเช้ากับการไปนั่งคาเฟ่ดื่มกาแฟทานครัวซองค์สูบบุหรี่สักตัวก่อนที่เข้าไปทำงานเริ่มต้นวันใหม่ (ชาวฝรั่งเศสสูบบุหรี่จัดมากๆ) นอกจากจะเข้าทำงานสายแล้ว ยังมีรสนิยมในการพักเที่ยงที่ยาวนานกว่าปกติอีกด้วย คุณเข้ามาทำงานตอน 10:30 น