kachelotravel Culture จัดอันดับ ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป เช็คให้ชัวร์ก่อนย้ายประเทศ

จัดอันดับ ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป เช็คให้ชัวร์ก่อนย้ายประเทศ

ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงว่า ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป นอกจากอเมริกา และแคนาดาแล้ว เป้าหมายที่คนทั่วโลกอยากไปอยู่มากที่สุดคงเป็นประเทศในแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ดี ความสวยงามของบ้านเมือง อารายธรรม สถาปัตยกรรม ภาษา และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นเสน่ห์ของประเทศในแถบยุโรป ที่หาที่ไหนไม่ได้ แม้กระทั่งคนอเมริกันบางคนเองก็อยากย้ายมาอยู่ในยุโรปด้วยเช่นกัน

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

วันนี้เราจึงอยากมาแบ่งปันข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์สัญชาติยุโรปแห่งหนึ่ง ว่าเจ้าบ้านเค้าคิดว่า ประเทศในแถบยุโรปประเทศไหน ที่เค้าว่าดี เจ้าบ้านเค้าว่าดีเราก็คงไปเถียงอะไรด้วยไม่ได้มากนอกจาก หาข้อมูลและตัดสินใจเอง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน

ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป
ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป

เมืองต่าง ๆ ใน ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรป

เมืองแรกคือเมืองในประเทศโปรตุเกสอย่างเมือง Braga เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ผู้คนใช้ภาษาอังกฤษได้ดี และผู้คนค่อนข้างมีอัธยาศัยดี อีกทั้งโปรตุเกสยังเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่ง และมีความหลากหลาย

Braga เองยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจ มีบริษัท และสตาร์ทอัพ ไปตั้งอยู่ใน Braga มากมาย รวมถึงเป็นศูนย์รวมการจัดอีเวนต์นานาชาติ แถมช่วงโควิดที่ผ่านมา Braga ยังเป็นเมืองหนึ่งที่รับมือกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งเมืองที่เจ้าบ้านแนะนำคือ เมือง มาดริด ประเทศ สเปน เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีเป็นอันดับต้น ๆ ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล และอัตราการก่ออาชญากรรมที่ต่ำ

อีกหนึ่งเมืองจากเกาะอังกฤษ อย่างเมือง Brighton มั่นใจได้แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษ ถึงแม้จะอยู่ในอังกฤษ แต่ค่าครองชีพนั้นไม่ได้สูงมาก แตกต่างจากเมืองอื่นๆ แถมยังอยู่ติดทะเลอีกด้วย สามเมืองนี้คือ Top 3 ที่เจ้าบ้านเค้าแนะนำมา ใครยังไม่มั่นใจจะลองแวะไปเที่ยวดูก่อนก็ได้

การใช้ชีวิตในนอร์เวย์

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

credit : ufabet168

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

Related Post

midsummer

Midsummer เทศกาลฤดูร้อนในสวีเดนMidsummer เทศกาลฤดูร้อนในสวีเดน

ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้มีหนังเรื่องนึงที่คนพูดถึงกันมากมายเลยก็คือ Midsommar ที่เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญกำกับโดย Ari Aster หลายๆคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอ เราก็เหมือนกัน และหลังจากที่ไปดูมาก็อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเทศกาล Midsummer ให้มากขึ้น ก็เลยลองค้นคว้าเพิ่มเติม หลังจากที่อ่านไปเยอะแยะแล้วเราก็เลยอยากแบ่งปันกับทุกคน บทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำเทศกาลนี้ให้รู้จักกัน Midsummer Festival History เทศกาลมิดซัมเมอร์ของประเทศสวีเดนนั้นเป็นงานเฉลิมฉลองฤดูร้อนที่จะจัดขึ้นทุกๆปีช่วงเดือนมิถุนายน และมีความสำคัญรองจากวันคริสตร์มาสเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่แปลกนักที่เทศกาลในฤดูร้อนจะมีความสำคัญขนาดนี้ เพราะประเทศในแถบสแกนดิเนเวียนั้นจะต้องอยู่กับฤดูหนาวและความมืดมิดแทบจะทั้งปี เมื่อถึงฤดูร้อนที่มีแสงอาทิตย์และความอบอุ่นจึงได้มีการจัดงานฉลองขึ้นมา ที่มาของเทศกาลนี้ตามที่ Nordic Museum บอกไว้ว่าเริ่มมาจากวันหยุดของชาวคริสเตียน St. John the Baptist Day

ศิลปะคลาสสิก

ศิลปะคลาสสิก ยุคกรีกโบราณและโรมันศิลปะคลาสสิก ยุคกรีกโบราณและโรมัน

ศิลปะคลาสสิก กรีกโบราณมีความโดดเด่นท่ามกลางวัฒนธรรมโบราณอื่น ๆ ในด้านพัฒนาการของการพรรณนาถึงร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ แต่ในอุดมคติซึ่งโดยทั่วไปแล้วรูปผู้ชายเปลือยมักเป็นจุดสนใจ ระหว่างประมาณ 750 ถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล เป็นที่น่าทึ่งตามมาตรฐานศิลปะโบราณ และในผลงานที่ยังเหลืออยู่จะเห็นได้ดีที่สุดในประติมากรรมกรีกโบราณ แต่ที่ผ่านมาก็ได้มีการใช้เทคโนโยลีเข้าไปช่วยในการบูรณะมาบ้างแล้ว เนื่องจากเกิดความเสียหายไปมากจากของเดิมที่การเสียหายจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีเครื่องปั้นดินเผาที่มีการทาสีที่แตกต่างกัน เครื่องปั้นดินเผาสีดำและเครื่องปั้นดินเผาสีแดง ที่ก็ได้รับความนิยมตามมาติดๆ และมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของชาวกรีกพอสมควร ศิลปะคลาสสิก โรมันได้รับอิทธิพลจากกรีก บางส่วนสามารถนำมาถ่ายทอดส่งต่อให้คนคนรุ่นต่อมาๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดหรือ ประติมากรรมกรีกโบราณ แต่ก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศิลปะอีทรัสคันในท้องถิ่นของอิตาลี ประติมากรรมถือได้ว่าเป็นรูปแบบศิลปะที่สูงที่สุดของชาวโรมัน แต่การวาดรูปก็ยังได้รับการยกย่องอย่างมากเช่นกัน ประติมากรรมโรมันส่วนใหญ่มีแบบมาจากชนชั้นสูงของสังคมเช่นเดียวกับภาพลักษณ์ของเทพเจ้า  อย่างไรก็ตามภาพวาดโรมันมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญ ในบรรดาภาพวาดโรมันที่ยังหลงเหลืออยู่คือภาพวาดฝาผนังซึ่งส่วนมากมาจากวิลล่าในกัมปาเนียทางตอนใต้ของอิตาลีโดยเฉพาะที่ปอมเปอีและเฮอร์คิวลาเนียม  *Augustus

ศิลปะยุคกลาง

ศิลปะยุคกลาง และศิลปะแบบไบแซนไทน์ศิลปะยุคกลาง และศิลปะแบบไบแซนไทน์

ศิลปะยุคกลาง สามารถแบ่งได้อย่างกว้างขวางเป็นศิลปะไบแซนไทน์ของอาณาจักรโรมันตะวันออกและศิลปะแบบกอธิคที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันตกในช่วงเวลาเดียวกัน นี่เป็นยุคที่ผู้คนน่าจะคุ้นตากันมากที่สุดเพราะน่าจะเคยเห็นผ่านๆตามาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นในพิพิธภัณฑ์ หรือในสื่อต่างๆ เพราะมีเอกลักษณ์ สวยงาม เหมือนเทพนิยาย ศิลปะไบแซนไทน์ ศิลปะยุคกลาง ที่ได้รับอิทธิพลจากยุคคลาสสิก แม้ว่าจะได้รับอิทธิพลมาแต่ก็มีความโดดเด่นด้วยการพัฒนารูปแบบใหม่ที่เป็นนามธรรมความงามโดยมีการต่อต้านธรรมชาตินิยมและเป็นที่นิยมสำหรับสัญลักษณ์ สาระสำคัญของศิลปะไบแซนไทน์ที่ยิ่งใหญ่นั้นมีหลักเกี่ยวกับศาสนาและจักรวรรดิ ทั้งสองรูปแบบมักจะถูกรวมเข้าด้วยกันเช่นเดียวกับในภาพของจักรพรรดิไบแซนไทน์ในภายหลังที่ตกแต่งภายในโบสถ์ในศตวรรษที่หกของฮาเกียโซเฟียในคอนสแตนติโนเปิล ความแตกต่างระหว่าง Baroque และ Rococo อย่างไรก็ตามชาวไบแซนไทน์ได้สืบทอดความไม่ไว้วางใจของคริสเตียนยุคแรกเกี่ยวกับรูปปั้นอนุสาวรีย์ในงานศิลปะทางศาสนาและผลิตเพียงภาพนูนต่ำนูนซึ่งมีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คนที่มีขนาดเท่าของจริงซึ่งตรงกันข้ามกับศิลปะในยุคกลางของตะวันตกซึ่งประติมากรรมขนาดมหึมา  แม้กระทั่งงาช้างขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังถูกเรียกเป็น “Minor arts” แต่ก็มีความสำคัญมากในงานศิลปะไบแซนไทน์และถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับคนมีเงิน นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆในยุคนี้ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าฟุ่มเฟือยได้หรือไม่ เพราะมันก็มีคุณค่าเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการผลิตขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชุบโลหะหรือโลงศพเช่นโลงศพ Veroli, งานแกะสลักหินแข็งเคลือบแก้ว, เครื่องประดับงานโลหะและผ้าไหม